Custom Search

วันพุธที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2552

เจ้ายีนต์ ทำให้อ้วน


เจ้ายีนต์ ทำให้อ้วน

ค้นพบยีนต์ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงของโรคอ้วนจากการกินมากเกินไป โดยคาดหวังกันว่าการค้นพบดังกล่าวจะนำไปสู่การป้องกันโรคอ้วน

บีบีซีนิวส์ - ในอนาคตเราก็จะรู้ได้ว่าคนไหนที่จะมีอัตราเสี่ยงของการเป็นโรคอ้วนตั้งแต่เกิด จากการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์อังกฤษที่ค้นพบยีนซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงของโรคอ้วนจากการกินมากเกินไป โดยคาดหวังกันว่าการค้นพบดังกล่าวจะนำไปสู่การป้องกันโรคอ้วนซึ่งกำลังเป็นปัญหาสำคัญอย่างหนึ่งได้

นักวิจัย จากอิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอน เผยว่า งานวิจัยของพวกเขาอาจนำไปสู่การทดสอบเพื่อระบุถึงคนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงและจะได้มีการป้องกันล่วงหน้า โดยได้ค้นพบว่า "ยีนGAD2" มีผลต่อการเพิ่มสารบางตัวต่อร่างกายที่ทำให้กระตุ้นความอยาก

การศึกษาซึ่งตีพิมพ์ใน พับลิก ไลบรารี ออฟ โซเชียล ไบโอโลจี (Public Library of Science Biology) ระบุถึงพาหะที่เป็นตัวสำคัญมากในการทำให้เกิดอาการหิวมากขึ้น โดยหัวหน้าคณะวิจัย ศาสตราจารย์ ฟิลิปเป้ โฟรเกล กล่าวว่า โรคอ้วนเป็นปัญหาที่ซับซ้อน ซึ่งไม่สามารถอธิบายทั้งหมดได้โดยปัจจัยใดปัจจัยหนึ่ง

แต่เขาบอกว่า GAD2นั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งประมาณ 1 ใน 10 ในคนที่มีน้ำหนักมากเกินไปอย่างรุนแรง โฟรเกลบอกว่า "การระบุถึงยีนชนิดนี้ได้ อาจช่วยพัฒนาการเพื่อตรวจดูคนที่อาจมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วนในภายหลัง และจะได้มีมาตรการการป้องกันที่มีประสิทธิภาพต่อไป"

1 ใน 5 ของชายชาวอังกฤษ และ 1 ใน 4 ของผู้หญิงเมืองผู้ดีนั้นเป็นโรคอ้วน โดยในช่วงเวลา 25 ปีที่ผ่านมานั้นอัตราของโรคนี้เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า และแพทย์ต่างเป็นกังวลเป็นอย่างยิ่งเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับวัยเด็กโดย 1 ใน 3 ของเด็กนั้นมีน้ำหนักเกิน ขณะที่เด็กอังกฤษนั้นเป็นโรคอ้วนกันถึง 17 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

งานวิจัยชิ้นดังกล่าวระบุว่าการมีน้ำหนักที่มากเกินไปจะทำให้เสียชีวิตเร็วกว่าอายุขัยปกติถึง 10 ปี โรคอ้วนยังได้เพิ่มความเสี่ยงของการเป็นมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคลมชักอีกด้วย โดยคาดว่าการเสียชีวิตราว 30,000 รายในอังกฤษต่อปีและค่าใช้จ่ายที่สูญเสียไปประมาณ 2.5 พันล้านปอนด์ต่อปีนั้นก็เป็นผลมาจากโรคอ้วน

การศึกษาของอิมพีเรียล คอลเลจ ซึ่งศึกษากับบุคคลกว่า 1,200 คนนี้ ระบุถึงยีน GAD2 สองรูปแบบ อันแรกนั้นเป็นตัวที่ป้องกันโรคอ้วน ส่วนอีกตัวหนึ่งนั้นเป็นยีนที่กระตุ้นให้เกิดอาการอยากอาหารมากกว่าปกติ โดยจากการศึกษากับอาสาสมัครที่มีรูปร่างผอมบางนั้นพบว่า พวกเขาจะมียีนที่เป็นตัวแรกซึ่งเป็นตัวที่ป้องกันโรคอ้วน ขณะที่คนอ้วนจะมียีนGAD2 รูปแบบหลัง

ยีนดังกล่าวจะกระตุ้นให้มีอาการอยากอาหารมากกว่าปกติ โดยจะไปเร่งการผลิตสารสื่อประเภทGamma aminobutyric acid (GABA) ในสมอง เมื่อรวมกับโมเลกุลอื่นๆแล้วก็จะกระตุ้นทำให้เรากินมากขึ้น ขณะที่ดร. เอียน แคมป์เบล ประธานของการประชุมโรคอ้วนแห่งชาติ กล่าวกับบีบีซีนิวส์ออนไลน์ว่า ปัจจุบันก็กำลังมีการศึกษาเกี่ยวกับยีนราว 250 ตัว ที่อาจเกี่ยวพันกับโรคอ้วนนั้น โดยระบุว่าโรคอ้วนนั้นเป็นโรคที่มีความสลับซับซ้อนเป็นอย่างมาก การค้นพบนี้เป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้สามารถทราบล่วงหน้า และป้องกันโรคที่จะเกิดขึ้นได้


วันศุกร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2552

ไม่จริง กินมื้อดึกแล้วจะ อ้วน



ไม่จริง กินมื้อดึกแล้วจะ อ้วน

คุณๆทั้งหลายที่กลัวว่ากินอะไรในตอนดึกแล้วจะทำให้เราอ้วนกว่ากินช่วงเวลาอื่น

บีบีซีนิวส์ คุณๆทั้งหลายที่กลัวว่ากินอะไรในตอนดึกแล้วจะทำให้เราอ้วนกว่ากินช่วงเวลาอื่นอาจดีใจเพราะ ผลการศึกษาล่าสุดในสหรัฐฯค้นพบ แม้จะกินข้าวดึกแค่ไหนก็ไม่ได้เกี่ยวกับน้ำหนักตัวที่จะเพิ่มขึ้นเลย

จากการรายงานในการประชุม Society for Neuroscience ที่นิวออลีนส์ ของนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโอเรกอน เฮลธ์ แอนด์ ซายส์ ในสหรัฐอเมริกาซึ่งได้ทำการทดลองกับลิงเพศเมีย 47 ตัว ระบุว่า คำกล่าวอ้างที่ว่าการกินในตอนดึกจะทำให้น้ำหนักเพิ่มนั้นอาจเป็นแค่เพียงแค่ความเชื่อของคนเมืองที่ไม่สมเหตุสมผลนัก

ดร. จูดี้ คาเมรอน และเพื่อนร่วมงาน ค้นพบเรื่องดังกล่าวโดยบังเอิญ จริงๆแล้วพวกเขาต้องการจะศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างฮอร์โมนเพศหญิงกับน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น

ในส่วนหนึ่งของการศึกษา พวกเขาได้ผ่าตัดเอามดลูกของลิง 19 ตัวจาก 47 ตัวออก ซึ่งลิงตัวที่ถูกผ่าตัดเอามดลูกออกนั้นจะทำให้ระดับฮอร์โมนเพศหญิง นั่นก็คือ เอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน ลดลง เหมือนกันช่วงของวัยหมดประจำเดือน และพบว่า ลิงทั้ง 19 ตัวนั้นจะเริ่มกินเยอะขึ้นเรื่อยๆส่งผลให้น้ำหนักตัวก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย

ดร. คาเมรอน กล่าวว่า "การขาดฮอร์โมนสองตัวนี้ทำให้ลิง 67% กินอาหารเพิ่มขึ้น และอีก 5%มีน้ำหนักตัวมากขึ้นภายในไม่กี่สัปดาห์" นักวิทยาศาสตร์กลุ่มนี้พบด้วยว่าระดับของฮอร์โมนเลปติน เพิ่มขึ้นในลิงเหล่านี้ ซึ่งเลปตินสร้างขึ้นจากเซลล์ไขมัน และมีผลต่อการกิน

ผลการศึกษาก่อนหน้านี้พบว่าผู้หญิงหลายคนเริ่มมีน้ำหนักตัวมากขึ้นเมื่อเข้าสู่ช่วงวัยหมดประจำเดือน โดยนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าการค้นพบของพวกเขาจะนำไปสู่การรักษาเพื่อต่อสู้กับปัญหาโรคอ้วน

ช่วงเวลากับมื้ออาหาร

ในระหว่างการศึกษา นักวิทยาศาสตร์ยังพบด้วยว่าในแต่ละวันนั้นลิงกินอาหารในช่วงเวลาที่ต่างกันไป ส่วนใหญ่จะกินในตอนเย็นและกลางคืน แต่พวกเขาก็ไม่พบความเชื่อมโยงระหว่างเวลาที่ลิงกินอาหารกับน้ำหนักของพวกมันที่เพิ่มมากขึ้น

อ้วนไม่อ้วนมันอยู่ที่แคลอรี

ตลอดเวลาที่ผ่านมา เรามักจะได้รับการบอกเล่าว่าควรหลีกเลี่ยงมื้อดึก เพราะมันจะทำให้เราน้ำหนักมากขึ้น ดร. คาเมรอนกล่าว อย่างไรก็ตาม ก็ไม่มีการศึกษาที่จะสนับสนุนความเชื่อพื้นๆนี้ ซึ่งมันอาจเป็นเพียงแค่เรื่องเล่าๆต่อๆกันมาก็ได้ และว่า ในการศึกษาเรื่องนี้ เราได้บันทึกเวลาที่ลิงกินอาหาร ลิงบางตัวกินช่วงเย็นและช่วงกลางคืน แต่ช่วงเวลาที่กินกับน้ำหนักก็ไม่ได้เกี่ยวพันกันเลย

ทั้งนี้ นายไนเจล เดนบี้ จากสมาคมโภชนาการของอังกฤษก็ได้ออกมาสนับสนุนการค้นพบดังกล่าว โดยชี้ว่าจุดสำคัญที่สุดอยู่แคลอรี ไม่ว่าจะเป็นเวลาไหนก็ตามที่กินอาหาร หากแคลอรีมากก็ทำให้น้ำหนักเพิ่มได้ เขากล่าวว่า

จริงๆแล้วร่างกายของคุณไม่ได้สนใจหรอกว่าจะกินเวลาไหน มันเป็นแค่ความเชื่อเท่านั้น ผมคิดว่าเมื่อเราย้อนกลับไปตอนที่คนเริ่มสนใจเกี่ยวกับการกิน ก็จะพบว่าเรามักจะกินพวกขนมขบเคี้ยวที่เต็มไปด้วยไขมันในตอนกลางคืนขณะที่เราดูทีวี ดังนั้นเพื่อที่จะทำให้เราหลีกเลี่ยงที่พฤติกรรมดังกล่าว พวกเขาก็เลยตั้งกฎขึ้นมาว่าเราควรกินเมื่อใด ไนเจล ยังแนะอีกว่า จริงๆแล้วถ้าเราจำเป็นที่จะกินหลัง 6 โมงเย็น หรือ 2 ทุ่ม มันน่าจะดีกว่าถ้าเราจะนั่งลงและกินอาหารเป็นมื้อๆไปเลย ไม่เช่นนั้นคุณอาจจะเสี่ยงกับการสวาปามอาหารอ้วนๆก็เป็นได้



วันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2552

โรคอ้วน เสี่ยงต่อโรคใดบ้าง ต้องระวัง

โรคอ้วน เสี่ยงต่อโรคใดบ้าง ต้องระวัง

ได้มีการศึกษาวิจัยพบว่า ผู้ที่มีดัชนีความหนาของร่างกาย (BMI) ตั้งแต่ 30 กิโลกรัมต่อตารางเมตรขึ้นไป มีโอกาสตายก่อนวัยอันสมควร สูงกว่าคนที่มีน้ำหนักปกติถึง 30% เหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะ คนอ้วนมีโอกาสเป็นโรคต่อไปนี้ได้ง่ายนั่นเอง

1.โรคความดันโลหิตสูง

2.โรคหัวใจขาดเลือด

3.โรคโคเลสเตอรอลสูงในเลือด

4.โรคไตรกลีเซอไรด์สูงในเลือด

5.โรคเบาหวาน

6.โรคนิ่วในถุงน้ำดี

7.กระดูกและข้อเสื่อมเร็วกว่าคนปกติ

8.ระบบทางเดินหายใจทำงานไม่สะดวก

9.โรคที่เกี่ยวกับปัญหาด้านจิตใจ

แต่ละโรคที่กล่าวมาแล้ว ล้วนแล้วแต่มีความร้ายแรงและยากต่อการรักษาพยาบาลเป็นอย่างยิ่ง ถ้าท่านยังไม่อ้วนและสามารถควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดได้ตลอดเวลา ท่านจะมีโอกาสเกิดโรคดังกล่าวน้อยมาก ส่วนท่านที่อ้วนแล้ว ท่านจะต้องตั้งใจอย่างแน่วแน่ เพื่อค่อยๆ ลดน้ำหนักลงมาให้อยู่ในเกณฑ์ปกติฑ์ให้ได้ เราขอเป็นกำลังใจให้ท่านประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนักนะครับ




ทำไมต้องลดน้ำหนัก

คุณและคนที่คุณรักอาจจะกำลังเผชิญอยู่กับหนึ่งในหลายๆ สถานการณ์ที่เป็นผลเสีย หรือเป็นภัยคุกคามต่อคุณภาพชีวิต เนื่องจากปัญหาน้ำหนักเกินมาตรฐาน ซึ่งบางคนมองว่าเป็นปัญหาเล็กๆ แท้จริงแล้วไม่ได้เล็กอย่างที่คิด เป็นปัญหาระดับชาติเลยทีเดียว ส่วนหนึ่งของ ปัญหาผู้ที่มีน้ำหนักเกินมีดังนี้

ทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพจิตและสุขภาพกาย

ขาดความมั่นใจในตนเอง

รู้สึกเหนื่อยง่ายกว่าปกติ

นอนหลับไม่สนิท

ปวดหัวเข่า และข้อเท้า

ปวดหลัง

อึดอัด ไม่สบายตัว

ขาดความสุขในชีวิตคู่

ชีวิตไม่มีความสุข

ใส่เสื้อผ้าไม่สวย

หาเสื้อผ้ายาก

มีรอยดำรอบคอ

ตื่นนอนแล้วไม่สดชื่น

สุขภาพไม่ดี

ความอ้วน ทำให้มีความเสี่ยงมากขึ้นต้องระวัง

อายุขัยสั้นกว่าคนน้ำหนักปกติ 10% - 100%

เบาหวานมากกว่าคนปกติ 57 เท่า

ความดันโลหิตสูงมากกว่าคนปกติ 3 เท่า

นิ่วในถุงน้ำดี 2-3 เท่าของคนปกติ

โรคหัวใจ และโรคไตเพิ่มขึ้น

โรคปอดเพิ่มขึ้น

เวลาจะผ่าตัด ก็มีอัตราเสี่ยงสูง

ปวดหัวเข่า

ปวดข้อเท้าหรือปวดหลัง

วันเสาร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2552

Baby Face Yoga


วัยรุ่นเป็นวัยใสตามธรรมชาติ การออกกำลังกายเพื่อคงความสดใสให้อยู่กับเราไปนานๆ จึงเป็นเรื่องที่ละเลยไม่ได้เลยครับ

Baby Face Yoga ท่านี้เรียกว่าท่ากระต่าย หรือบางคนเรียกว่าท่าหน้าเด็กครับ เพราะทำแล้วช่วยให้เลือดฝาดไหลเวียนมาหล่อเลี้ยงบริเวณใบหน้าได้ดีขึ้น ทำให้หน้าแดงระเรื่ออมชมพูและเต่งตึงด้วยครับ

วิธีทำ

1. ยืนด้วยเข่า ลำตัวตึง มือวางข้างลำตัว

2. สูดลมหายใจให้เข้าลึกๆ สอดมือทั้งสองข้างไปด้านหลังจับที่บริเวณข้อเท้าทั้งสองข้าง แขนตึง

3. ค่อยๆ ก้มศีรษะลง ให้กลางกระหม่อมวางลงบนพื้นหายใจออก

4. ค้างท่าไว้ พร้อมหายใจเป็นปกติ นับ 1-10

5. หายใจเข้าพร้อมกับยกลำตัวขึ้นตรง กลับสู่ท่าเริ่มต้น ทำซ้ำ 3 ครั้ง

ทำท่ากระต่ายแล้วต่อด้วยท่าโยคะในท่าอื่นๆ จะทำให้หน้าใสปิ๊งยิ่งขึ้นครับ

นวด

ช่วยอยากออกกำลังกาย

งานวิจัย British Journal of Sports Medicine ศึกษาพบว่า สาวๆที่นวดน่องตัวเองหลังเดินหรือวิ่งบนสะพานครั้งละ 10 นาที จะช่วยให้พวกเธอมีกำลังใจออกกำลังกายเพิ่มขึ้นในวันถัดไป

เนื่องจากการนวดนั้นช่วยลดความเมื่อยตึงกล้ามเนื้อน่องได้ถึง 49 เปอร์เซ็นต์

ผมมีวิธีการนวดนำมาฝากผู้อ่านที่ชื่นชอบหรืออยากออกกำลังกายครับ

1. คลึงฝามือไปตามกล้ามเนื้อน่อง

4 อาหารพิษ ทำตดเหม็น




4 อาหารพิษ ทำตดเหม็น
การผายลมแล้วมีกลิ่นเหม็น (มากๆ) สามารถบอกอาการผิดปกติของร่างกายได้ แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด
เพราะมีอาหารบางชนิดที่นอกจะสร้างกลิ่นไม่พึงประสงแล้ว ยังก่อโทษกับร่างกาย อาหารพิษเหล่านี้คืออะไรบ้างมาดูกันครับ
1. เบียร์
2. เหล้าองุ่นขาว
3. อาหารรสเผ็ดจัดทุกประเภท
4. น้ำตาลเทียมซอร์บิทอล

โอเมก้า-3 สูตรมังสวิรัติ



เรารู้ว่าปลาทะเลนั้นเต็มไปด้วยโอเมก้า 3 ประโยชน์เพียบ

นอกจากป้องกันโรคหัวใจแล้ว ยังช่วยปรับสมดุนความดันโลหิตและลดอาการอักเสบ

หาดคุณแพ้ปลาทะเลหรือปวารณาตัวเป็นมังสวิรัติชั่วชีวิตไปแล้วละ ยังมีทางเลือกอื่นเพื่อรับประโยชน์จากโอเมก้ว -3 อีกไหม

มีครับ และนั่นก็คือ สาหร่ายและพืชที่เป็นอาหารของปลาทะเลนั้นเอง

ประโยชน์เหล่านี้คุณเลือกได้ครับ





คู่หูผัก คู่สุขภาพตา

ผักโขมดีต่อสุขภาพตา อะโวคาโดก็ดีต่อสุขภาพตาเช่นกัน

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ศึกษาพบว่า เมื่อเรากินผักโขมสองสหายนี้เข้าไปพร้อมกัน ผลลัพธ์ก็ยิ่งทวีประสิทธิภาพ เพราะเชื่อว่าไขมันในอะโวคาโดนั้นช่วยเพิ่มการดูดซึมแคโรทีนนอยด์ ซึ้งเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของกล้ามเนื้อตา

ปริมาณที่นักวิจัยแนะนำคือ กินผักโขมสดปริมาณตามใจชอบ พร้อม อะโวคาโด 3 ช้อนโต๊ะ ปรุงเป็นผักสลัด อาจเพิ่มแครอทและกะหล่ำปลีด้วยก็ได้ครับ

คนทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์และผู้ใช้สายตามากๆ ต้องลองครับ